หลายคนที่กำลังคิดจะมีรอยสัก มาลองคุยมาลองดูทางนี้ก่อน ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้สักหรือจะบอกว่าการสักนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่อยากจะพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากที่ได้ทำการสักไปแล้ว บางคนสักเพราะคิดว่าเป็นแฟชั่นสวยงาม แล้วในที่สุดก็ทำการสักจนล้นตัว มาเต็มแขนเต็มขา ที่สำคัญยังเรียนอยู่ยังไม่ได้ทำการทำงานแต่อย่างใด ตรงนี้มีเรื่องจะมาบอกกล่าวให้สำหรับผู้ที่คิดอยากจะสักได้รับรู้ รับทราบเสียหน่อย
เรื่องราวของการสักมีมาตั้งแต่สมัยหลายร้อยปีก่อน ด้วยการสักเพื่อให้มีเมตตามหานิยมหรือเพื่ออาคมต่างๆที่มีการทำกันมาแต่โบราณ แต่มาถึงยุคสมัยนี้แล้วได้เปลี่ยนการสักเป็นในรูปแบบที่เพื่อความสวยงามบนร่างกายไปเสียส่วนใหญ่ หรืออย่างบางประเทศก็ได้ทำการสักเพื่อเข้าร่วมกลุ่มกัน อย่างประเทศญี่ปุ่นที่มีลายสักที่เป็นเอกลักษณ์ประจำกลุ่มคนที่สามารถที่จะสักลายแบบนี้ได้ต้องได้รับการยอมรับจากกลุ่มเสียก่อน หรือ ต้องมีการทดสอบหลายๆอย่างเพื่อที่จะได้เข้ากลุ่ม แต่นั้นก็เป็นแค่ส่วนน้อย ยิ่งสำหรับดาราไทยในตอนนี้ก็นิยมการสักไม่น้อยแน่นอนว่าการสักในยุคสมัยใหม่นี้ใครที่ชื่นชอบรอยสักแบบไหนก็สามารถทำได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะรวดลายที่นิยม หรือลวดลายที่เป็นความชื่นชอบส่วนตัวก็สามารถทำได้ทั้งหมด
แต่ถึงอย่างนั้น เขาเหล่านั้นก็เป็นดาราใช้ความสามารถและหน้าตาทำการหาเงินเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ แต่สำหรับวัยรุ่นที่กำลังคิดว่าตนเองนั้นอยากจะมีรอยสัก ต้องคิดคำนึกให้ดี เพราะรอยสักนั้น ก็มีบางสังคมที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะในด้านธุรกิจหรือการทำงานที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารเป็นส่วนใหญ่ เพราะรอยสักกับคนส่วนมากยังมีความเข้าใจกันในวงกว้างว่า คนที่มีรอยสักเยอะเกินไปนั้นก็จะส่งผลต่อการทำงานหรือการสมัครงาน
หลายอาชีพที่